วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิธีการสั่งสือ พอกเกตบุค by the way สิว


ตอนนี้ราคากระดาษขึ้น อย่างรวดเร็วคะ ขอปรับขึ้นราคาจาก 160บาท นะคะ เป็น 190 บาท 

ค่าส่ง EMS ,30 บาทคะ 

รวมทั้งหมด 220 บาทคะ 

สามารถโอนเงิน ได้ที่ ธนาคาร กสิกรไทย สาขาเบตง เลขที่บัญชี 253-2-34402-9 ณัชชา ปริเปรมกุล

โอนแล้วสามารถแจ้ง ยอดโอนพร้อมสลิปการโอนเงิน ได้ที่กล่องข้อความ หรือ e-mail: pinkymafia@hotmail.com 

Line: pinkymafia

แจ้งที่อยู่ด้วยนะคะ เมื่อหนังสือมาพร้อมจัดส่งทันทีเลยคะ

ทุก5 บาท ของพอกเกตบุตจะร่วมทำบุญที่บ้านเด็กกำพร้านะคะ อนุโมทนาบุญ คะ

วิวัฒนาการ ของการล้างตับของฉัน


บทความนี้เป็นการสรุป วิวัฒนาการ ในการเริ่มล้างตับด้วยตนเอง ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งที่11

ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ก่อนที่จะทำการล้างพิษตับในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 ผู้เขียนได้มีการ ล้างพิษลำไส้ใหญ่แบบ 7วัน 1ครั้ง และเคร่งครัดในเรื่องอาหาร และงดเนื้อสัตว์ทานแต่เนื้อปลา สวนล้างลำไส้ดื่มน้ำผักและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำตามนาฬิกาชีวิต อย่างเคร่งครัด เมื่อ ผ่านไป 1เดือน จึงลองล้างตับด้วยตนเอง 

ครั้งแรกทำวันที่6-8 กย พ.ศ.2555
ตอนนั้น ยังไม่มี Lidtox หรือน้ำด่าง ทำแบบ ทั่วไป แต่ด้วยความที่เราสุขภาพแข็งแรงและ ปฎิบัติ ตน อย่างเคร่งครัด ทำให้ มีพิษ ที่เป็นก้อนนิ่วสีเขียว มรกต ออกมาเป็นจำนวนมาก ขนาดเท้านิ้วโป้ง มีก้อนเล็กก้อนใหญ่สลับกันไป ในการทำครั้งแรกเกิดอาการเพลียมากนอน ทั้งวัน แต่พอวันรุ่งขึ้นที่ขับพิษ ร่างกายสดใส และสิวที่อยู่ตามแนวกรามยุบลงอย่างเห็ดได้ชัด น้ำหนักลดลง 1 กก. 
มีจำนวนนิ่วออกมา3 ถาดก้อนใหญ่ประมาณ 300 ก้อน ก้อนกลางและก้อนเล็กมีจำนวน มากนับไม่ถ้วนคาดว่าน่าจะ 500-600 เม็ด


ครั้งที่สอง ทำวันที่ 19-21 กย พ.ศ.2555
มีอาการเดียวกับเหมือนครั้งแรก อุปกรณ์ทำแบบพื้นฐานเหมือนครั้งแรกจำนวนนิ่วลดลงบ้าง แต่ก็ยังเยอะ มีสีเขียวเข้ม มรกต และมีก้อนเล็กและใหญ่ ประมาณ 300-500 ก้อนปนๆๆกัน และมีไขมันสีเหลืองๆ ออกมา  


ครั้งที่สาม ทำวันที่ 4-6 ตค. พ.ศ.2555
ใช้อุปกรณ์เหมือนครั้งแรก อาการเดียวกับครั้งแรก มีจำนวนนิ่วก้อนใหญ่ลดลงลดลงเหลือถาดเดียว 50-80 ก้อน นอกนั้นจะเป็นนิ่วก้อนเล็กๆกับไขมันสีเหลืองๆเป็นก้อนขนาด2 เซนติเมตร ที่พอกตับอยู่

การเปลี่ยนแปลเห็นได้ชัด จากครั้งแรกที่น้ำหนัก 55 กิโลกรัม เหลือแค่ 48 กิโลกรัม ทุกคนเริ่มทักและถามว่าไปทำอะไรมากับน้ำหนักตัว 7 กิโลกรัม 


ครั้งที่สี่ทำวันที่ 11-13 ตค. พ.ศ.2555
ใช้อุปกรณ์เหมือนครั้งแรก จำนวนนิ่วน้อยลงมากจากสามครั้งที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด  มีนิ่วจำนวน1 ถาดกับอีก เศษๆถาดคะ เพิ่มน้ำมะนาวจาก 3-4 ผล เป็น 150 มิลลิลิตร ทำให้ทานน้ำมันมะกอกง่ายขึ้น 


 ครั้งที่ห้าทำวันที่ 27-28 ตค. พ.ศ.2555
อุปกรณ์ที่ใช้ในการล้างพิษมีเพิ่มขึ้นคือ Lidtox สมุนไพร มีลักษณะคล้ายหัวบุกและเครื่องเทศต่างๆมีน้ำด่างที่หมักจากขี้เถ้ากะลามะพร้าว ผสมกับน้ำต้มสุกดื่มตลอดวัน Lidtoxช่วยลากสิ่งที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกมา มีเมือกคล้ายๆลำไส้ออกมาเป็นจำนวนมากประมาณ 2 กิโลกรัม และไขมันที่อยู่ในตับ นิ่วมีปริมาณ 20-30 ก้อนและก้อนเล็กๆเท่าก้อนกรวด ปนๆกัน เพิ่มน้ำมะนาวเป็น 150 มิลลิลิตร ทานง่ายและช่วยลดภาวะร้อนในร่างกาย มีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรงเนื่องจากพิษที่ไม่ขับออกมาเอง จึงนอนต่อดังนั้นเมื่อพิษที่ออกมาแล้วไม่ได้ขับออกมาจึงทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรง จึงตื่นขึ้นมาทำการสวนทวาร พอพิษออกมาและทานข้าวต้มปลาจึงดีขึ้น


ครั้งที่หกทำวันที่ 5-6ม.ค. พ.ศ.2556
อุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมี Lidtox และ น้ำด่าง ช่วยให้ทานดีเกลือง่ายขึ้นมีเมือกคล้ายๆลำไส้ออกมายาว 1ฟุต ถ่ายออกมาเป็นเมือกไขมัน นิ่วสีเขียวน้อยลงมาก ขนาดเม็ดเล็กเท่านิ้วก้อย ต้องทำการสวนด้วยน้ำด่างในวันถัดมา ในช่วงเช้า เพราะขับถ่ายแล้วพิษไม่ออกมา พอสวนแล้วมีการขับพิษแล้วจึงรู้สึกดีขึ้น 


ครั้งที่เจ็ด ทำวันที่ 20-21 มค. พ.ศ.2556
ใช้อุปกรณ์เหมือนครั้งที่6 มีเมือกไขมันออกมาจากลำไส้ประมาณ1 กิโลกรัม ถ่ายออกมาเป็นสีดำสนิท กลิ่นเหม็นมาก มีนิ่ว เขียวเม็ดเล็กๆ ออกมา3เม็ด ใช้การสวนด้วยน้ำด่าง จึงขับพิษออกมาได้ อ่อนเพลียเล็กน้อย


ครั้งที่แปด ทำวันที่15-16 กพ. พ.ศ2556
ใช้อุปกรณ์เหมือนครั้งที่เจ็ด มีเมือกเมือกไขมัน ออกมา2-3 ถาดประมาณ1 กิโลกรัมมี นิ่วออกมาประมาณ50 ก้อนขนาดเท่านิ้วก้อยและนิ้วชี้ลดหลั่นกันไป สวนทวารด้วยน้ำด่างเพื่อช่วยให้ร่างกายขับพิษ

ครั้งที่เก้าทำวันที่ 5-9 มีค. พ.ศ.2556
ก่อนจะล้างตับสามวันมีการทานน้ำผัก ผลไม้ธัญพืช สวนทวารด้วยน้ำด่างเพื่อทำความสะอาดลำไส้เล็กเตรียมพร้อมในการล้างตับใช้อุปกรณ์เหมือนครั้งที่ แปด มีเมือกไขมันออกมาสีน้ำตาลเข้ม มันมีกลิ่น เหม็น ประมาณ1 กิโลกรัม มีนิ่วออกมาเม็ดประมาณถั่วลันเตาจำนวน ประมาณ100เม็ด มีสีเขียวใบไม้ แต่มีกลิ่นเหม็นมาก สวนทวารด้วยน้ำด่างในเช้าวันขับพิษ  

ครั้งที่สิบทำวันที่22-26 มีค. พ.ศ.2556
ก่อนจะล้างตับสามวันมีการทานน้ำผัก ผลไม้ธัญพืช สวนทวารด้วยน้ำด่างเพื่อทำความสะอาดลำไส้เล็กเตรียมพร้อมในการล้างตับใช้อุปกรณ์เหมือนครั้งที่ เก้า มีเมือกไขมันออกมาสีน้ำตาลเข้ม มันมีกลิ่น เหม็น ประมาณ1 กิโลกรัม มีนิ่วออกมาเม็ดประมาณถั่วลันเตาจำนวน ประมาณ100เม็ด มีสีเขียวใบไม้และสีเขียวขี้ม้า แต่ไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็น สวนทวารด้วยน้ำด่างในเช้าวันขับพิษ  และสวนอีกที 10.00 นาฬิกา และสวนครั้งสุดท้าย 17.00 น.

ครั้งที่ 11 ทำวันที่ 10-12 กรกฏาคม พ.ศ.2556
ก่อนทำการล้างตับทุกครั้ง จะทำการดีทอคและงดอาหารหนัก มันๆแป้ง เพื่อล้างลำไส้ก่อนทุกครั้ง ครั้งนี้หยุดล้างตับไปสามเดือนแต่จะ ล้างลำไส้ทุกเดือนมีการทาน lidtox คือสมุนไพรที่คล้ายหัวบุกมีฤทธิ์ช่วยขับเมือกไขมันและเศษอาหารในลำไส้ ทุกครั้งที่มีการล้างลำไส้ วันละ 3 เวลา เช้า 9.00,12.00,15.00 ช่วยให้ลำไส้โล่งและสะอาดมากขึ้น ในครั้งนี้ก็ล้างลำไส้ เหมือนทุกครั้ง แต่เพิ่มการล้างตับเข้ามา เป็นครั้งที่11 หลังจากหยุดการล้างไป 3 เดือน อาการในการล้างครั้งนี้ปกติ ไม่ค่อยหิวชิน ทานนมธัญพืชไปสองแก้วน้ำผักสามแก้ว ลิดทอกสามแก้ว สามเวลา ตอนเช้าได้อมน้ำมันมะพร้าวและสวนกาแฟ ตามปกติ และสวนกาแฟอีกทีตอนเย็นเพิ่มน้ำขิงทานกับดีเกลือ ช่วยขับลมได้ดี มีเมือกไขมันขับออกมามาก สีเข้ม และเขียว ก่อนนอนทานน้ำมันมะกอกอาการปกติมาก ไม่มีอาการพะอืดพะอมแต่อย่างใด นอนหลับได้ปกติมากน่าแปลกกว่าทุกครั้ง ได้ไปทำการกัวซา และเผลอหลับไปทำครั้งที่ 4 หลับสบายอาการปวดลดลงมาก วันรุ่งขึ้นสวนทวารด้วยน้ำด่าง มีก้อนนิ่วเม็ดเล็กเท่ากรวด 18 เม็ด สายๆทานอาหารเช้าอ่อนๆไป มีนิ่วขับออกมาเท่าเม็ดอัลม่อน 10เม็ด และไซส์เล็กๆลดหลั่นกันไป ประมาณ 50 เม็ด นับรวมได้ทั้งหมด 150-200 เม็ด มีสีเขียวเข้มมรกต เหมือนหยก  

ระเบียบการขอรับคำปรึกษา เรื่องสิว สุขภาพ สัดส่วน


ระเบียบในการเข้ารับคำปรึกษาฟรีเรื่องผิวหน้าคะคะ
ส่งรูปมาใน กล่องข้อความหรือ email:pinkymafia@hotmail.com

1.รูปที่ต้องการคือ ซูมบริเวณที่เป็นสิว ทุกมุม ในแต่ละด้านของหน้านะคะ ขอชัดๆ พยายามถ่ายที่แสงแดด ธรรมชาติ จะดีมากๆคะ ใช้กล้องถ่ายรูปนะคะ 2.แจ้ง อายุ วันเกิด และ ปัญหาที่ต้องการปรึกษา
3.เล่าให้ฟังคะ ว่าตั้งแต่ตื่นเช้ามาจนเข้านอนใช้ผลิตภัณท์อะไรบ้าง รวมทั้งการแต่งหน้าหรือการล้าง คสอ ออกด้วยนะคะ
4.เล่ากิจวัตรประจำวันอาหารที่ชอบทาน ตั้งแต่เวลาตื่นนอน จนถึงเวลาเข้านอน โดยเฉพาะเวลาขับถ่ายขับถ่ายกี่รอบนะคะ แล้วมาคุยกันนะคะ

ปรึกษาปัญหาสุขภาพ หรือสัดส่วนคะ 
1.รูป หน้าโดยรวม ซูมที่ตาขาวคะ เหงือก เล็บ ผิวหนังที่แขนคะ
2.แจ้ง อายุ วันเกิด นน ส่วนสูง แจ้งเรื่องที่ต้องการปรึกษาคะ
3.เล่ากิจวัตรประจำวันให้ฟังคะ ว่าตั้งแต่ตื่นนอน จนเข้านอนทำอะไรบ้างคะ และเล่าถึงอาหารที่ชอบทาน ทานประจำหรือทานเล่นคะ รวมถึงเรื่องระบบขับ    ถ่ายด้วยนะคะ

ไม่รับปรึกษาทางไลน์ หรือ วอทแอปแล้วนะคะ ขอบพระคุณคะ

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

คอลลาเจนดีอย่างไร ทำไมช่วยให้ผิวใสเด้ง





อย่างที่เคยเขียนเอาไว้แล้วเรื่องวิตตามิน ขอยกบทความของคอลลาเจนมาก่อนคะ

 collagen คอลลาเจน คือ ???

เป็นเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบเฉพาะในสัตว์ โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น หลอดเลือด เส้นประสาท เส้นผม ขน และ ต่อมเหงื่อ โดยคอลลาเจนทำหน้าที่ร่วมกับเส้นใยอีลาสตินและกรดไฮยาลูโรนิกช่วยให้เนื้อเยื่อมีความแข็งแรงยึดติดอวัยวะภายในร่างกายให้อยู่ด้วยกันภายในชั้นผิวหนังแท้ ช่วยเสริมสร้างผิวหนังของร่างกายให้มีความแข็งแรงและเรียบตึงหรือเรียกความยืดหยุ่นนี้ว่า Elastin  หากร่างกายขาดคอลลาเจนจะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง ตลอดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆที่สัมพันธ์กับคอลลาเจน

โดยปกติคอลลาเจนจะถูกสังเคราะห์ได้เองภายในร่างกาย โดยใช้กรดอะมิโนที่ได้รับจากอาหาร โดยมีวิตามิน C เป็นตัวช่วย ดังนั้นหากได้รับโปรตีนและวิตามิน C ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้การสังเคราะห์คลอลาเจนเป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ และจะทำให้ร่างกายขาดคอลลาเจนได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำลายคอลลาเจนได้อีกด้วย 

คอลลาเจน พบได้ในโปรตีนจากสัตว์ไข่ นม ปลาทะเล อาหารทะเล เป็นต้น อย่างที่บอกต้องทานร่วมกับวิตามินC ถึงจะเห็นผลสูงสุด กระบวนการทำงานของคอลลาเจนในร่างกาย ทำงานอย่างไร???

คอลลาเจน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะโดนย่อยเป็นโปรตีนหน่วยเล็กๆ ซึ่งโปรตีนจะถูกย่อย จนเป็นกรดอะมิโน แล้วร่างกายจะนำกรดอะมิโนไปใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างคอลลาเจน ดังนั้นการทานคอลลาเจนจึงไม่ต่างจากการทาน โปรตีนโดยทั่วไปนะคะ ปริมาณที่ควรทานในแต่ละวันคือ 3-10 กรัม

คอลลาเจน บางผลิตภัณท์อ้างว่าเป็นสายเปปไทด์ สามารถดูดซึมได้เลย ????

ในความเชื่อของผู้เขียน ไม่มีสารอาหารตัวใดที่ร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมได้ทันทีโโยไม่ผ่านกระบวนการย่อยของร่างกาย โปรตีนทุกตัวจึงต้องผ่านกระบวนการย่อยของร่างกาย ผ่านน้ำย่อยต่างๆ จึงจะถูกจำแนกแจกจ่ายไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย แม้ว่า โปรตีนตัวนั้นจะการันตี หรือชี้แจงว่ามีสายอนุพันธ์เล็กแค่ไหนต้องผ่านกระบวนการย่อยอยู่ดี แต่อาจจะย่อยได้ดีกว่าอาหารสดๆที่ทานเข้าไปเพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการเคี้ยวและ กระบวนการบด บีบจากกระเพาะอาหาร 

คอลลาเจน ในท้องตลาด ทำไมทานแล้วสิวหาย ผิวใส ผิวขาว????

อย่างที่บอกคะ คอลลาเจนที่ขายกันทั่วไปคือโปรตีนชนิดหนึ่ง แต่จะสกัดมาจากสารอาหารชนิดใดนั้นแล้วแต่ ผลิตภัณฑ์ ที่กล่าวอ้างนะคะ ส่วนมากจะแจ้งว่ามาจากปลาทะเลน้ำลึก มีการแข่งขันสูง แจ้งปริมาณคอลลาเจนตั้งแต่ 3000, 4000,5000 ถึง 10000 อย่างที่บอกปริมาณ โปรตีนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันมัน พอเพียงกับอาหารที่เราทานในแต่ละวันนะคะ เมื่อเราเพิ่มปริมาณเยอะๆใช้ว่าร่างกายจะดูดซึมได้ มีการขับทิ้งสู่ปัสสาวะ หรือไปพอกที่ตับคะ 

ดังนั้นสาเหตุที่ทำให้สิวหาย คงต้องมาเจาะที่ส่วนผสมในแต่ละตัวนะคะ เพราะอย่างที่บอกสิวเกิดจากไขมันใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ และดันตัวขึ้นมาซึ่งหลักอยู่ที่ระบบขับถ่ายเมื่อ ไม่ถ่ายแต่สิวยุบ คงต้องระวังหน่อยนะคะว่ามีสาร เกี่ยวกับกรดวิตตามินEหรือเปล่า

ทำไมทานแล้วผิวใส หลักๆในคอลลาเจน จะใส่วิตตามินซี ที่ผู้เขียนทานคือ คอลลาเจน ของเมจิ จะเป็นผงๆ ต้องผสมทานเองกับวิตตามินซี ส่วนผู้เขียนทานร่วมกับวิตตามินซีสดคือน้ำผักผลไม้วิตตามินซีสูง ก่อนมื้ออาหารเช้าคะ

วิตตามินซีอย่างที่ทราบกันคะทำงานคู่กับคอลลาเจน จะเป็นตัวนำพาคอลลาเจนคะ ถ้าไม่มีวิตตามินซีร่างกายดูดซึมคอลลาเจนไม่ได้คะ วิตตามินซีคุณสมบัติหลักๆคือต่อต้านอนุมูลอิสระคะ เป็นตัวกลางที่บำรุงภายใน และช่วยเรื่องเม็ดสี ช่วยร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวคะ ผลข้างเคียงช่วยให้เม็ดสีผิวทำงานช้าลง เลยทำให้ผิวขาวขึ้นคะ 

ส่วนผสมอีกตัวคือกลูต้าไธโอน
กลูต้าไธโอน glutathione
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์ สามารถสังเคราะห์ได้เอง มีคุณสมบัติ เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลาย โดยสร้างอนุมูลอิสระที่สะสม อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และที่สำคัญยังช่วยตับในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

แท้ที่จริงแล้ว ร่างกายมนุษย์ จึงไม่จำเป็นต้องทานวิตามินที่มีส่วนผสม ของกลูต้าไธโอนเลย เนื่องมาจากว่าจะถูกย่อย เมื่อเข้าสู่กระเพราะอาหาร คนกลุ่มนึงจึงแนะนำให้ฉีด อย่างไรก้อตาม มันคือผลข้างเคียงของการใช้วิตามินตัวนี้คือทำให้ผิวขาวขึ้น แพทย์ส่วนมากใช้ สารกลูต้ารักษาผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น มะเร็ง เอดส์ เป็นต้น แต่ไม่มีผลวิจัยแน่ชัดว่าจะเห็นผล 100% จึงไม่แนะนำให้ใช้กับ ผู้ที่มีร่างกายปกติ เพราะเมื่อฉีดเข้าร่างกายจะถูกสะสมอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป

ดังนั้นผิวของเราจะถูกกระตุ้นด้วยวิตตามินเหล่านี้จึงได้ขาวขึ้น 

ส่วนผสมตัวอื่น ที่มีอยู่ในคอลลาเจน ราคาจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับปริมาณของสารสกัดเหล่านั้น ที่เร่งให้เม็ดสีผิว
ทำงานช้าลง ผิวถึงขาวขึ้น เปล่งประกายเหมือนมีออร่า

Grape seed extract
เช่นสารสกัดจากเมล็ด องุ่น คือ ไบโอฟลาโวนอยด์ หรือเรียกสั้นๆว่า OPC เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน ช่วยปกป้องเซลล์ ลดอาการแพ้ต่างๆ เสริมความแข็งแรงของผนังหลอดเลือดฝอย ลดภาวะไขมันเกาะผนังหลอดเลือด ส่งเสริมการทำงานของวิตตามินเอและซี แต่ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือด ควรปรึกษาแพทย์หรือเมื่อทานแล้วเกิดอาการปวดมึนศีรษะให้หยุดทานทันที  ปริมาณที่ควรทานในแต่ละวัน 50-100 มิลลิกรัมต่อวันแต่อย่างที่บอกคะ ที่กล่าวมาข้างต้นคือสมมุติฐาน เพราะเคยมีนักวิทยาศาสตร์เค้าทดลองในหนูนะคะ

อะไรบ้างที่สามารถทำลายคอลลาเจนในร่างกาย
1.อายุ อีลาสตินน้อยลง
2.การนอนดึก เพราะเวลานอนร่างกายกำลังสร้างคอลลาเจน
3.แอลกอฮอล์ เป็นตัวการทำลายคอลลาเจน
4.แสงแดด ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง

สรุปเลยคะว่า คอลลาเจนในท้องตลาด ไม่จำเป็นเลยต่อร่างกายเราถ้า เราทานอาหารครบ5หมู่ แต่สำหรับบางคนเกิดภาวะอาหารไม่ย่อยระบบดูดซึมไม่ดีเพราะ ไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่พักผ่อนให้เพียงพอสะสมพิษโดยการไม่ขับถ่าย จึงทำให้ระบบดูดซึมไม่ดี จึงต้องการอาหารเสริมเหล่านี้มาช่วย โโยเราไม่สามารถทราบเลยว่าระบบภายในเราพังอย่างไร ขอฝากนาฬิกาชีวิตไว้นะคะ

ลิงคที่เกี่ยวข้องคะ


Time Schedule of your life












01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ
ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดี เป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีลาโทนิน (meratonine)เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endrophin)ออกมาด้วย 
จึงไม่ควรรับประทานอาหารเวลานี้ เพราะจะทำให้ตับทำงานหนัก และเสื่อมเร็ว หน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษ ภายในร่างกาย
ส่วนหน้าที่รองคือ ช่วยในการดูแลผม ขน เล็บ ให้แข็งแรง ถ้าส่นนี้มีปัญหา ให้ฟันธงได้เลยคะว่าตับเราเริ่มจะมีปัญหาแล้วคะ
ช่วยกระเพราะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อยๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก ตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ 

03.00-05.00 เป็นช่วงเวลาของปอด
จึงควรตื่นนอน ลุกขึน เพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ และรับแสงแดดในยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็น ประจำปอดจะดี ผิวดีขึน

05.00-7.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ 
ควรขับถ่ายอุจจาระ ทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ควรจะถ่าย3-5 ครั้งก่อน 7.00 น. (เปรียบเทียบจากปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปนะคะ)
เพราะถ้าเราไม่จำกัดของเสียเหล่านี้ออกมาก่อนเวลา 7.00 ระบบลำไส้จะทำงานดูดซึมของเสียเหล่านี้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
ดังนั้น เราจึงต้องขับของเสียออก และแทนที่ของเสียด้วยอาหารเช้า ที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วนคะ

07.00-09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงาน และย่อยอาหาร แยกอาหารสู่ลำไส้เล็กและกากอาหารสู่ลำไส้ใหญ่และสารอาหารจะถูกดูดซึมไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายที่ลำไส้เล็ก ดังนั้นมื้อเช้าจึง เป็นมื้อ ที่สำคัญที่สุด จริงทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ไม้เน้นแต่อย่างใดอย่างหนึงควร เน้นไปทางโปรตีน จากพืช ผักและผลไม้คะ

09.00-11.00 เป็นชั่วงเวลาของม้าม
ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศรีษะ บ่อยมัก มาจากความผิดปกติของม้าม
อาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้าม กับตับ ม้ามจะช่วยผลิตเม็ดเลือดขาวเพื่อช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและฆ่าเชื้อไวรัสต่างๆที่อยู่ในร่างกาย
 ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย
 ม้ามชื้นอาหารและน้ำที่รับประทานเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมันจึงทำ
ให้อ้วนง่าย
 ดังนั้น ผู้ที่นอนหลับในช่วงเวลานี้ 09.00-11.00 ม้ามจะอ่อนแอ

11.00-12.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
หัวใจจะทำหนักมากในช่วงนี้ให้หลีกเลี่ยงภสวะความเครียดหรือ ภาวะที่ต้องตื่นเต้นอย่างรุนแรง

12.00-13.00 เป็นช่วงเวลาของการทานมื้อเที่ยง 
กระเพาะอาหารเริ่มทำงานอีกครั้งเพื่อส่งอาหารไปยังลำไส้เล็กและดูดซึมอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย ถ้าใครอยากลดความอ้วนให้ทานอาหารเที่ยงในช่วงเวลานี้ หลังจากนี้ขอให้งด ขอเป็นน้ำ ชาสมุนไพร ชาดอกไม้ ต่างๆเพื่อความผ่อนคลาย

13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
จึงควรงดการกิน อาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาศ ให้ลำไส้ได้ทำงาน ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึม สารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่นวิตามินซี บี โปรตีน เพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ 
กระเพาะปัสสาวะ จะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด
ช่วงเวลานี้จึงควรออกำลังกาย เพื่อที่ทำการ D-tox ต่อมต่างๆและรูขุมขน เพื่อช่วยลดการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ ปัสสาวะ จะถูกดูดซึม เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มีกลิ่นตัวแรงๆ
ส่วนใครที่กำลังลดความอ้วนอยู่แนะนำให้ทานมื้อเย็นช่วงนี้ เพราะกระเพาะกำลังส่งน้ำย่อยออกมาย่อยอาหาร แนะนำให้งดเนื้อสัตว์ อาหารหนักๆ งดแป้ง ขอเป็นผักและผลไม้จะดีมากๆคะ

17.00-19.00 เป็นช่วงเวลาของไต จึงควรทำให้ร่างกายสดชื่นในช่วงนี้ ถ้าใครง่วงนอนในช่วงนี้แสดงว่าคุณมีปัญหาที่ไต เรียกว่าไตเสื่อม

เราควรจะลดอาหารรสจัด ช่วงที่พักไต ไม่ปรุงรสเลยจะดีที่สุด
เวลาปรุงอาหารเติมแค่เกลือหรือเหยาะแค่ซีอิ้ว เท่านั้น และทานน้ำอย่างต่ำวันละ 1.5-2 ลิตร แต่อย่าทานพรวดๆทีเดียวค่อยๆจิบจนหมดวัน ควรหากระบอกที่บอกปริมาตรเราจะได้ทราบว่าวันๆนึงเราทานน้ำ ได้เท่าไหร่ ทานชาสมุนไพรที่มีฤทธิ ช่วยล้างไต เช่น ชามะเขือพวง ชาอัสสัม ชากระเจียบแดง เป็นต้น
ช่วงนี้ยังออกกำลังกายได้บ้างคะ แต่อย่าให้เกินกว่านี้นะคะ

19.00-21.00 เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงนี้ ควรจะสวดมนต์ทำสมาธิทำจิตใจให้สงบคะ
ช่วงเวลานี้ห้ามออกกำลังกายแล้วนะคะ เพราะจะทำให้เซลล์เสื่อมสถาพเร็ว และบอบช้ำ ระบบภายในจะทำงานหนัก เพราะร่างกายกำลังพักผ่อนนะคะ

21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลา ที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น
 จึงห้ามอาบน้ำในช่วงนี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
แนะนำให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นคะ ห้ามสระผมเด็ดขาดถ้าจำเป็นสระเสร็จรีบเป่าให้แห้งคะ ยิ่งใครที่เป็นภูมิแพ้ยิ่งต้องระวังค้า

23.00-01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี 
ถุงน้ำดีคือถุงสำรอง ที่เก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น ถุงน้ำดีมีผลไปถึงปอดส่งผลให้เกิดอาการ สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟัน นอนไม่ค่อยหลับ ชอบสดุ้งตื่นกลางดึก จะปวดศรีษะ สองข้างหรือข้างเดียวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ทีมา จากหนังสือ นาฬกาชีวิต โดยอ.นวลฉวี ทรรพนันทน์







วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

มารคแต่หน้า เบื่อมะ วันนี้มาหมักผมกันบ้างนะคะ



มารคแต่หน้า เบื่อมะ วันนี้มาหมักผมกันบ้างนะคะ 

1.ไข่แดง ที่แบ่งมาจากไข่ขาว ไข่ขาวใช้มารคหน้าคะ 
2.น้ำมันมะกอก กะเอานะคะปริมาณ 
3.น้ำผึ้ง 1ชต. คนรวมกัน เหม็นคาวหน่อย แต่ผลลัพธ์แจ้มจ้นมากจ้า



โยเกริตน้ำผึ้ง


Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | ewa network review