วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

Time Schedule of your life












01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ
ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดี เป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีลาโทนิน (meratonine)เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endrophin)ออกมาด้วย 
จึงไม่ควรรับประทานอาหารเวลานี้ เพราะจะทำให้ตับทำงานหนัก และเสื่อมเร็ว หน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษ ภายในร่างกาย
ส่วนหน้าที่รองคือ ช่วยในการดูแลผม ขน เล็บ ให้แข็งแรง ถ้าส่นนี้มีปัญหา ให้ฟันธงได้เลยคะว่าตับเราเริ่มจะมีปัญหาแล้วคะ
ช่วยกระเพราะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อยๆ จะทำให้ตับทำงานหนัก ตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ 

03.00-05.00 เป็นช่วงเวลาของปอด
จึงควรตื่นนอน ลุกขึน เพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ และรับแสงแดดในยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็น ประจำปอดจะดี ผิวดีขึน

05.00-7.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ 
ควรขับถ่ายอุจจาระ ทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ควรจะถ่าย3-5 ครั้งก่อน 7.00 น. (เปรียบเทียบจากปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปนะคะ)
เพราะถ้าเราไม่จำกัดของเสียเหล่านี้ออกมาก่อนเวลา 7.00 ระบบลำไส้จะทำงานดูดซึมของเสียเหล่านี้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
ดังนั้น เราจึงต้องขับของเสียออก และแทนที่ของเสียด้วยอาหารเช้า ที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วนคะ

07.00-09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงาน และย่อยอาหาร แยกอาหารสู่ลำไส้เล็กและกากอาหารสู่ลำไส้ใหญ่และสารอาหารจะถูกดูดซึมไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายที่ลำไส้เล็ก ดังนั้นมื้อเช้าจึง เป็นมื้อ ที่สำคัญที่สุด จริงทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ไม้เน้นแต่อย่างใดอย่างหนึงควร เน้นไปทางโปรตีน จากพืช ผักและผลไม้คะ

09.00-11.00 เป็นชั่วงเวลาของม้าม
ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศรีษะ บ่อยมัก มาจากความผิดปกติของม้าม
อาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้าม กับตับ ม้ามจะช่วยผลิตเม็ดเลือดขาวเพื่อช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและฆ่าเชื้อไวรัสต่างๆที่อยู่ในร่างกาย
 ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย
 ม้ามชื้นอาหารและน้ำที่รับประทานเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมันจึงทำ
ให้อ้วนง่าย
 ดังนั้น ผู้ที่นอนหลับในช่วงเวลานี้ 09.00-11.00 ม้ามจะอ่อนแอ

11.00-12.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
หัวใจจะทำหนักมากในช่วงนี้ให้หลีกเลี่ยงภสวะความเครียดหรือ ภาวะที่ต้องตื่นเต้นอย่างรุนแรง

12.00-13.00 เป็นช่วงเวลาของการทานมื้อเที่ยง 
กระเพาะอาหารเริ่มทำงานอีกครั้งเพื่อส่งอาหารไปยังลำไส้เล็กและดูดซึมอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย ถ้าใครอยากลดความอ้วนให้ทานอาหารเที่ยงในช่วงเวลานี้ หลังจากนี้ขอให้งด ขอเป็นน้ำ ชาสมุนไพร ชาดอกไม้ ต่างๆเพื่อความผ่อนคลาย

13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
จึงควรงดการกิน อาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาศ ให้ลำไส้ได้ทำงาน ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึม สารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่นวิตามินซี บี โปรตีน เพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ 
กระเพาะปัสสาวะ จะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด
ช่วงเวลานี้จึงควรออกำลังกาย เพื่อที่ทำการ D-tox ต่อมต่างๆและรูขุมขน เพื่อช่วยลดการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ
การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ ปัสสาวะ จะถูกดูดซึม เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มีกลิ่นตัวแรงๆ
ส่วนใครที่กำลังลดความอ้วนอยู่แนะนำให้ทานมื้อเย็นช่วงนี้ เพราะกระเพาะกำลังส่งน้ำย่อยออกมาย่อยอาหาร แนะนำให้งดเนื้อสัตว์ อาหารหนักๆ งดแป้ง ขอเป็นผักและผลไม้จะดีมากๆคะ

17.00-19.00 เป็นช่วงเวลาของไต จึงควรทำให้ร่างกายสดชื่นในช่วงนี้ ถ้าใครง่วงนอนในช่วงนี้แสดงว่าคุณมีปัญหาที่ไต เรียกว่าไตเสื่อม

เราควรจะลดอาหารรสจัด ช่วงที่พักไต ไม่ปรุงรสเลยจะดีที่สุด
เวลาปรุงอาหารเติมแค่เกลือหรือเหยาะแค่ซีอิ้ว เท่านั้น และทานน้ำอย่างต่ำวันละ 1.5-2 ลิตร แต่อย่าทานพรวดๆทีเดียวค่อยๆจิบจนหมดวัน ควรหากระบอกที่บอกปริมาตรเราจะได้ทราบว่าวันๆนึงเราทานน้ำ ได้เท่าไหร่ ทานชาสมุนไพรที่มีฤทธิ ช่วยล้างไต เช่น ชามะเขือพวง ชาอัสสัม ชากระเจียบแดง เป็นต้น
ช่วงนี้ยังออกกำลังกายได้บ้างคะ แต่อย่าให้เกินกว่านี้นะคะ

19.00-21.00 เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงนี้ ควรจะสวดมนต์ทำสมาธิทำจิตใจให้สงบคะ
ช่วงเวลานี้ห้ามออกกำลังกายแล้วนะคะ เพราะจะทำให้เซลล์เสื่อมสถาพเร็ว และบอบช้ำ ระบบภายในจะทำงานหนัก เพราะร่างกายกำลังพักผ่อนนะคะ

21.00-23.00 น. เป็นช่วงเวลา ที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น
 จึงห้ามอาบน้ำในช่วงนี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
แนะนำให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นคะ ห้ามสระผมเด็ดขาดถ้าจำเป็นสระเสร็จรีบเป่าให้แห้งคะ ยิ่งใครที่เป็นภูมิแพ้ยิ่งต้องระวังค้า

23.00-01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี 
ถุงน้ำดีคือถุงสำรอง ที่เก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น ถุงน้ำดีมีผลไปถึงปอดส่งผลให้เกิดอาการ สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟัน นอนไม่ค่อยหลับ ชอบสดุ้งตื่นกลางดึก จะปวดศรีษะ สองข้างหรือข้างเดียวอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ทีมา จากหนังสือ นาฬกาชีวิต โดยอ.นวลฉวี ทรรพนันทน์







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | ewa network review